แมนฯ ซิตี้ กลับคืนฟอร์มอีกครั้ง เมื่อเปิดบ้านเอาชนะ ไบรท์ตัน 3-1 โดยได้ประตูจาก เออร์ลิง ฮาแลนด์ 2 ลูก และ เควิน เดอ บรอยน์ ทำให้ เรือใบ ไล่หลัง อาร์เซน่อล ทีมจ่าฝูงเหลือคะแนนเดียวแล้ว แต่แข่งมากกว่า 1 นัด
เปิดเกมมาแค่ 11 นาทีแรก ทีมเยือนได้ทักทายก่อนจากลูกยิงด้วยขวาของ แดนนี่ เวลเบ็ค แต่ว่าบอลมันก็ยังหลุดกรอบออกไป
แต่ต่อมานาที 22 เป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ เอแดร์ซอน เตะเปิดเกมยาวมาให้ เออร์ลิง ฮาแลนด์ แตะบอลหนี โรเบิร์ต ซานเชซ แล้วเบียดชนะ อดัม เว็บสเตอร์ ก่อนจะแปด้วยขวาโล่งๆ เข้าประตูไป
ในนาที 32 เรือใบสีฟ้า มีโอกาสอีกครั้งจากการขึ้นเกมมาทางขวาก่อนจะเป็น แบร์นาร์โด้ ซิลวา ที่หลุดเข้าไปปาดเข้ามาให้ เดอ บรอยน์ แปะออกไปให้ กรีลิช คืนจังหวะเดียวมาให้ เดอ บรอยน์ ได้กดด้วยซ้ายแต่ก็ยังไปติดเซฟของ ซานเชซ
5 นาทีถัดมา ไบรท์ตัน ได้ลุ้นจากลูกเตะมุมที่ ปาสกาล โกรสส์ เปิดเข้ามาให้ เวลเบ็ค ได้โขกระยะหกหลาแต่ว่ามันโดนไม่ดีทำให้หลุดกรอบออกไป
ทว่าช่วงท้ายครึ่งแรกนาที 43 ซิตี้ มาได้ลูกจุดโทษ ทาง ลูอิส ดังค์ ไปเอาขาเกี่ยวขาของ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ในกรอบเขตโทษ ทาง เคร็ก พอว์สัน ได้ไปเช็คกับจอวีเออาร์ก่อนจะเป่าให้จังหวะนี้เป็นลูกโทษ และเป็น ฮาแลนด์ ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด เจ้าบ้านหนีห่างเป็น 2-0
ในครึ่งหลัง นาที 52 เจ้าถิ่นโอกาสได้ลูกที่สามจากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ ลากบอลขึ้นมาก่อนจะจ่ายออกไปให้ ริยาด มาห์เรซ ทางฝั่งขวาวิ่งมาแปด้วยซ้ายแต่ทาง ซานเชซ ยังปัดไว้ได้
หลังจากนั้นนาทีถัดมา ไบรทตัน มาได้ประตูตีไข่แตกเป็น 1-2 จากเกมโต้กลับที่ ทรอสซาร์ ลากบอลขึ้นมาทางซ้ายก่อนจะจ่ายต่อไปให้ ซอลลี่ มาร์ช ตบคืนมาให้ ทรอสซาร์ กดเต็มข้อด้วยซ้ายบอลพุ่งเข้าเสาแรกไป แม้ เอแดร์ซอน จะพยายามปัดแต่ด้วยความแรงทำให้ปัดไม่ออกบอลเข้าประตูไป
ต่อมานาที 72 เรือใบได้ลุ้นต่อจากลูกเตะมุมที่ เควิน เดอ บรอยน์ เปิดเข้ามาให้ เอมเมอริก ลาปอร์กต์ ได้ขึ้นโขกเต็มๆไปที่เสาสองแต่ว่ามันหลุดเสาออกไปนิดเดียว
แต่อีก 3 นาที เจ้าบ้านมาหนีเป็น 3-1 จากจังหวะที่ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ลากบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนจะปาดเข้าไปให้ เควิน เดอ บรอยน์ ได้ตั้งป้อมปั่นด้วยขวาไปที่เสาสองบอลข้ามมือ โรเบิร์ต ซานเชซ เข้าประตูไป
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มขึ้นจบเกม แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะ ไบรท์ตัน ไปได้ 3-1
แมนฯ ซิตี้ : เอแดร์ซอน – มานูเอล อคานจี, รูเบน ดิอาส, เอมเมอริก ลาปอร์กต์, ชูเอา กานเซโล่ – เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้, แบร์นาร์โด้ ซิลวา – ริยาด มาห์เรซ, เออร์ลิง ฮาแลนด์, แจ็ค กรีลิช
ไบรท์ตัน : โรเบิร์ต ซานเชซ – โยเอล เฟลท์มัน, ลูอิส ดังค์, อดัม เว็บสเตอร์ – ซอลลี่ มาร์ช, อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์, มอยเสส ไกเซโด้, เลอันโดร ทรอสซาร์ – ปาสกาล โกรสส์, อดัม ลัลลาน่า – แดนนี่ เวลเบ็ค
{{val.time_create * 1000 | date : ‘dd/MM/yyyy HH:mm:ss’}} น.
แก้ไขเมื่อ {{val.time_update * 1000 | date : ‘dd/MM/yyyy HH:mm:ss’}} น.
Quote
{{v.time_create * 1000 | date : ‘dd/MM/yyyy HH:mm น.’}}
แก้ไขเมื่อ {{v.time_update * 1000 | date : ‘dd/MM/yyyy HH:mm น.’}}
Quote
0 && !val.replys” ng-click=”content.event.get_reply(val);”>
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})
มิลานเฮแล้วดับคลับบรูช10ตัว3-1 วันพุธที่ 23 ตุลาคม 2567
ทาคิ ซัดเบิ้ล!โมนาโกยำเซอร์เวน่า5-1 วันพุธที่ 23 ตุลาคม 2567
กอร์ดอนต่อสัญญายาวฝากอนาคตสาลิกา วันพุธที่ 23 ตุลาคม 2567
บิ๊กผีรับเองไม่พอใจฟอร์มสตาร์ทฤดูกาล วันพุธที่ 23 ตุลาคม 2567
เคียซ่าไร้เงาซ้อมวืดเกมเยือนไลป์ซิกอีก วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567
อาแจ็กซ์ชักลังเลหวั่นอันโตนี่ลืมฟอร์มเก่ง วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567
