ในนิยามของคำว่า “บ้านหรู “ ในเชิงการตลาดบ้านหรู หมายถึง ตลาดบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ที่มีราคาขายมากกว่า 20 ล้านบาท ในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 แม้ว่าภาพรวมอสังหาริมทรัพย์จะชะลอตัว
แต่บ้านหรูยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นกลุ่มลูกค้าที่กำลังซื้อสูง ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจน้อย ทำให้ความต้องการบ้านหรูเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องขณะเดียวกันเป็นกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ใช้สอย ทำเล
ความเป็นเอกลักษณ์ดีไซน์ของบ้าน ประกอบกับอุปทานในตลาดที่ยังมีอยู่น้อย จากการที่ผู้ประกอบการได้ชะลอการเปิดโครงการ และข้อจำกัดในการหาที่ดินขนาดใหญ่เพื่อพัฒนาโครงการ
ในปี 2565 บ้านหรูมีหน่วยเปิดขายใหม่เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่ชะลอตัวลงจากโควิด-19 และในระยะต่อไปคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลงจากปีที่ผ่านมา โดยผู้ประกอบการจะเปิดโครงการอย่างระมัดระวังมากขึ้น จากการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นคำพูดจาก สล็อต777
ส่วนของหน่วยขายขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 และขยายตัวอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงหน่วยเหลือขายที่ยังทรงตัว
ส่องทำเลยอดนิยม “บ้านหรู” ในปี 2565 ทำเลที่มีการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
- สุขาภิบาล 2 และสุขาภิบาล 3 คิดเป็น 15% ของหน่วยขายได้ของตลาดบ้านหรูทั้งหมด
- ตลิ่งชัน คิดเป็น 11%
- พัฒนาการ รวมกรุงเทพกรีฑา คิดเป็น 10%
- ศรีนครินทร์ – อุดมสุขคิดเป็น 7%
- บางนา – ตราดคิดเป็น 5%
ทำเลที่มีอัตราการขยายตัวของหน่วยขายได้โดยเฉลี่ยตั้งแต่ปี 2562-2565 สูงที่สุด ได้แก่
- ศรีนครินทร์-อุดมสุขอยู่ที่ 82%
- สุขาภิบาล 2 และสุขาภิบาล 3 อยู่ที่ 75%
- พัฒนาการ (กรุงเทพกรีฑา) อยู่ที่ 23%
ทำเลยอดนิยมส่วนใหญ่อยู่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นทำเลที่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองมากนัก สามารถเดินทางเข้าถึงได้สะดวกด้วยรถไฟฟ้า และทางด่วน นอกจากนั้นยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างมาก ทั้งสนามบินนานาชาติ โรงพยาบาลห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ รวมถึงโรงเรียนนานาชาติชั้นนำ ขณะที่ทำเลฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ
โดยเฉพาะพื้นที่ตลิ่งชัน รวมถึงพื้นที่คาบเกี่ยวโซนราชพฤกษ์ เริ่มส่งสัญญาณการขยายตัวมากขึ้นในระยะต่อไป โดยมีทางด่วน และถนนวงแหวนรอบนอกเชื่อมต่อเขตเมือง รวมถึงมีขยายตัวของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ และโรงเรียนนานาชาติในพื้นที่มากขึ้น
ห่วงบ้าน 10-15 ล้าน ส่อมีปัญหา ลูกค้าเจ้าของธุรกิจ SMEs ขาดสภาพคล่อง
สิงห์ เอสเตท บุก กรุงเทพตะวันออก เปิดขายบ้านเริ่มต้นหลังละ 120 ล้าน
ข้อเสนอแนะสำหรับผู้ซื้อ และผู้ประกอบการ
ผู้ซื้อ : ในช่วงปัจจุบันยังเป็นโอกาสที่ดีในการตัดสินใจซื้อ จากระดับราคาที่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มากนัก และควรพิจารณาเลือกผู้พัฒนาโครงการจากประสบการณ์ และผลงานที่ผ่านมา เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัย
ผู้ประกอบการ : จากต้นทุนก่อสร้างที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ผู้พัฒนาโครงการควรบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อรักษาอัตรากำไร รวมถึงพิจารณาการแข่งขันในบางพื้นที่ที่อาจมีความเข้มข้นเพิ่มมากขึ้น อีกทั้ง การนำเสนอไอเดียใหม่ ๆ ที่คำนึงถึงการอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อม และนำเทคโนโลยี Smart home ใหม่ ๆ มาปรับใช้